Last updated: 12 ก.ย. 2566 | 578 จำนวนผู้เข้าชม |
สัดส่วนการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชนิดต่างๆ ก๊าซธรรมชาติเป็นต้นทุนหลักที่ใช้ผลิตไฟฟ้า ซึ่งมาจาก 3 แหล่ง ราคาถูกที่สุด คือ ก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทย รองลงมาเป็น ก๊าซธรรมชาติจากเมียนมาร์ และก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ “LNG” ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ตามลำดับ ที่ผ่านมามีการคิดราคาต้นทุนก๊าซธรรมชาติโดยใช้ราคา Pool gas ส่งผลทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่า Ft เท่ากับทุกสาขาที่ใช้ไฟฟ้า ในรอบเดือน มค.-เม.ย 65 ค่า Ft ในสาขาบ้านอยู่อาศัยมีค่าต่ำลงกว่าสาขาอื่น เพราะคิดต้นทุนเชื้อเพลิง โดยใช้ราคาก๊าซจากอ่าวไทยซึ่งมีราคาต่ำกว่า pool gas “pool gas” ในที่นี้ หมายถึง ก๊าซธรรมชาติที่จำหน่ายให้กับโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (IPP) ผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) และผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติรายอื่น เช่น ภาคอุตสาหกรรม และ NGV ซึ่งภายใน pool gas จะประกอบไปด้วยก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยที่มาจากโรงแยกก๊าซของ ปตท. ก๊าซจากเมียนมาร์ และ LNG ที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยมี ปตท.เป็นผู้บริหารจัดการ และมีหน่วยงานกลางทำหน้าที่คำนวณราคาก๊าซธรรมชาติ (energy pool price — EPP) ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กกพ. โดยนำข้อมูลราคาและปริมาณก๊าซธรรมชาติจาก pool gas, LNG, LPG, น้ำมันเตา, ดีเซล และเชื้อเพลิงอื่นมาคำนวณหาราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก เมื่อกำหนดราคาเสร็จเรียบร้อย ก็ส่งให้ PTT shipper นำไปกำหนดราคาก๊าซธรรมชาติ ขายให้ลูกค้าผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติของ ปตท. ทุกราย ทั้งโรงไฟฟ้า ภาคอุตสาหกรรม และ NGV ที่ใช้ในภาคขนส่ง ตามแผน PDP2022 ปี 2565-2580 จะเพิ่มพลังงานสะอาดเข้าระบบมากขึ้น เพื่อไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน(Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ.2593) และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี ค.ศ. 2065 (พ.ศ.2608)
|
Credit | กระทรวงพลังงาน, EPPO
13 ก.ย. 2566
13 ก.ย. 2566
13 ก.ย. 2566
13 ก.ย. 2566